หลังจากที่เปิดตัวที่งาน IFA 2014 พร้อมกับเฟิร์มแวร์รุ่นล่าสุดอย่าง Lumia Denim ในที่สุดทางไมโครซอฟท์ประเทศไทย (ฝั่งดีไวซ์) ได้ส่ง Lumia 830 และ 730 วางตลาดในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ โดยเปิดให้จองช่วงกลางเดือน ที่ผ่านมา และเปิดขายจริงเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ในราคา 13,990 บาท (830) และ 8,790 บาท (730) ตามลำดับ
รอบนี้ Blognone ได้เครื่องทดสอบมาเช่นเคย โดยรีวิวนี้จะเป็นการรีวิว Lumia 830 ก่อน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา สเปคเต็มๆ อ่านเอาจากข่าวเก่าได้เลยครับ เข้าเรื่องของเรากันดีกว่า
คำเตือน ภาพเยอะมาก โปรดใช้วิจารณญาณในการเปิดบนอุปกรณ์พกพาของท่าน
แกะกล่องและภายนอกของเครื่อง
Lumia 830 ยังคงใช้แนวทางในการออกแบบกล่อง (design language) เหมือนกับ Lumia รุ่นอื่นๆ ที่ออกในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างอันเดียวที่สำคัญคือการแสดงตัวเครื่องเดี่ยวๆ ไม่ใช่ตัวเครื่องที่ประกอบไปด้วยเครื่องสีอื่นๆ แบบที่ Lumia ตัวอื่นๆ ใช้บนหน้ากล่อง
แกะกล่องออกมา หน้าตาก็ประมาณเดิม มีหูฟัง, สาย USB, ที่ชาร์จไฟ และแบตเตอรี่ให้มาในเครื่อง
ตัวเครื่องออกแบบเช่นเดียวกับ Lumia 930 ตัวเรือธงของสาย Lumia ในปีนี้แทบจะทุกประการ ความแตกต่างข้อเดียวที่อาจจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดภายนอก คือการที่เครื่องมีขนาดบางลง และขนาดค่อนข้างใหญ่ขึ้น ออกแนวแผ่ออกมากกว่า (ผมคิดว่าเหมือนกับเอา Lumia 930 มารีดให้แบนขึ้นมากกว่า) ยังคงใช้ขอบเครื่อง (frame) เป็นโลหะ แต่งานหยาบกว่าเดิมและลดคุณภาพลง (ตอนแรกผมเข้าใจว่าพลาสติกพ่นโลหะด้วยซ้ำ)
ความแตกต่างอีกอย่างที่อาจจะสังเกตได้อีกอัน คือการที่ฝาหลังของ 830 สามารถถอดเปลี่ยนได้ ไม่เหมือนกับ 930 ดังนั้นถ้าชอบแต่งตัว อาจจะซื้อฝาหลังมาทุกสีแล้วเปลี่ยนใส่ตามอารมณ์ได้ (Lumia 830 ใช้ Nano SIM)
แม้ว่าจะออกแบบทุกอย่างแทบจะเหมือนกับ Lumia 930 แต่ Lumia 830 ก็มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง ด้านซ้ายเครื่องไม่มีอะไรเลย ด้านขวาเป็นปุ่มปรับเสียง, เปิด/ปิด หน้าจอ และปุ่มสำหรับกล้อง ส่วนพอร์ต Micro USB โดนโยกไปอยู่ด้านบน
เทียบกับ Lumia 930 (ซ้าย: Lumia 830, ขวา: Lumia 930)
บน: Lumia 830, ล่าง: Lumia 930
ซ้าย: Lumia 830, ขวา: Lumia 930
เทียบกับ Lumia สามพี่น้อง (ซ้ายไปขวา: 930, 830, 730)
รอบนี้แม้ผมจะไม่ซื้อเคสมาเหมือนกับรอบ 930 แต่ก็มีเคสใช้ร่วมกัน โดยเป็นเคสฝาปิดที่ต้องใช้การถอดฝาหลังออกมา
ไปดูข้อมูลจากแอพ My Phone กันเลยครับ
การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
เช่นเคยเนื่องจากซอฟต์แวร์ภายในเป็น Windows Phone 8.1 คงต้องให้ไปอ่านเพิ่มเติมเอาครับ เพราะถึงแม้ว่าจะปรับฐานขึ้นมาใช้เฟิร์มแวร์ตัวล่าสุดอย่าง Lumia Denim แล้ว แต่โดยรวมก็ยังถือว่าไม่แตกต่างจากเดิมแต่อย่างใดครับ
Lumia 830 น่าจะเป็นเพียง Lumia รุ่นเดียวของปีนี้ ที่มาพร้อมกับ Glance screen เนื่องจากใช้หน้าจอแบบ IPS LCD แบบที่มีความจำนั่นเอง ซึ่งให้สีที่ตรงกับความเป็นจริงและค่อนข้างสวยครับ จอของ 830 นั้น ถ้าว่ากันตามตรง ผมคิดว่าสวยกว่าจอของ 930 ที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบันเสียอีก เวลาใช้กลางแจ้งถือว่าแสดงผลได้ดีมาก
เรื่องของแบตเตอรี่เองถือว่าดีมาก ไม่ได้ด้อยไปกว่า 930 เท่าไหร่ แต่ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของเสียงจากลำโพงเครื่องนั้น "ดัง" และค่อนข้าง "ชัด" ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับมือถือรุ่นกลางค่อนสูงของไมโครซอฟท์ตัวนี้ ส่วนเรื่องของการโทรศัพท์ก็ถือว่าทำได้ดีไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง
จุดอ่อนที่สุดของ Lumia 830 คงมีอยู่สองเรื่อง หนึ่ง ฝาหลังที่ปิดยากมากและไม่สม่ำเสมอ บางจุดดูเหมือนปิดแนบลงไปกับเครื่อง บางจุดดูปิดไม่สนิทแนบไปกับเครื่อง และสองคือตัว Windows Phone 8.1 เอง ที่ยังมี ecosystem ย่ำแย่ กล่าวคือ โดยรวมๆ ผมชอบ Windows Phone 8.1 แต่พอจะต้องใช้แอพบางอย่าง เช่น Google Hangouts กลับไม่มี และนั่นก็บังคับให้ผมต้องใช้โทรศัพท์พร้อมๆ กันสองเครื่องโดยไม่จำเป็นครับ
กล้อง
จากสเปค กล้องของ Lumia 830 คือกล้องแบบเดียวกับ Lumia 930 เพียงแต่ลดความละเอียดลงมาเหลือ 10 เมกะพิกเซลเท่านั้น ซึ่งทำให้ภาพที่ถ่ายทั้งในตอนกลางวันและกลางคืนดูดีครับ โดยเฉพาะภาพถ่ายตอนกลางคืนถือว่าดีมากขึ้นกว่า 930 ด้วยซ้ำ ลดอาการฟุ้งได้มากอยู่
ภาพโฟกัสระยะใกล้ ก็ถือว่าทำได้ดีทั้งในทุกสถานการณ์ แต่ยังคงปรับโฟกัสได้ไม่ดีมากเท่าที่คิดไว้ รวมๆ ถือว่าโอเคอยู่ทีเดียว
บทสรุป
ผมคิดว่า Lumia 830 เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีอันหนึ่งในช่วงราคาที่ประมาณ 14,000 บาท มันสามารถตอบโจทย์พื้นฐานทุกอย่างได้ไม่มีปัญหา ทั้งเรื่องของการใช้งานแอพทั่วไปจนไปถึงการถ่ายภาพ เท่าที่ใช้มาก็ไม่มีอาการน่ากังวลอะไรเลย กล่าวคือ เมื่อเทียบกับสถานการณ์ตอนที่รีวิว Lumia 930 และ 530 ตอนแรกนั้น ถือว่าประสบการณ์ของ 830 นั้นค่อนข้างนิ่งและเข้าที่แล้ว ตัวเครื่องถือว่าใช้ได้ดีและมีความบางที่เป็นเอกลักษณ์ ขนาดผมใช้ Lumia 930 อยู่ในปัจจุบัน ยังชอบ 830 เลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ Lumia 830 จะต้องเผชิญมีอยู่สองด้าน ด้านหนึ่งคือเหตุผลที่จะต้องซื้อมือถือราคาเรือนหมื่น (อย่าลืมนะครับว่ามือถือสเปคแรงๆ แต่ราคาถูกมากๆ อย่าง ASUS PadFone S กำลังจะมีวางขายอย่างเป็นทางการแล้วด้วยราคาหนึ่งหมื่นทอนบาท) ซึ่ง Lumia 830 อาจจะตอบโจทย์ในแง่ของกล้องได้ แต่คำถามคือ ยังคงเป็นจุดขายได้ด้วยหรือ ในเมื่อที่เวลานี้ สมาร์ทโฟนราคาถูกหลายรุ่นมีกล้องที่ดีมากๆ แล้ว อีกด้านหนึ่งคือตัวระบบแวดล้อม (ecosystem) ของ Windows Phone ที่ยังไปไม่ถึงไหนเสียที แถมรอบการพัฒนา Windows Phone ถือว่าช้ากว่าคู่แข่งมากหลายช่วงตัว
กล่าวโดยสรุปคือ Lumia 830 นั้นเป็นโทรศัพท์ที่ดีมากในแง่ของการใช้โดยทั่วไป (ภาษาอังกฤษคือ well-rounded) ทุกอย่างใช้ได้ดีและเข้าท่า ซอฟต์แวร์ถือว่าเข้าที่แล้ว แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ Lumia 830 คือเรื่องของระบบแวดล้อมโดยรวมของ Windows Phone 8.1 ที่ไม่สามารถมีแอพและสร้างความแตกต่างได้เทียบเท่ากับคู่แข่ง ซึ่งนี่เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของซีก Windows Phone ทั้งหมด ไม่ใช่แค่ Lumia แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และถือเป็นจุดเปราะบางที่สุดของ Lumia 830 เครื่องนี้
ข้อดี
- ตัวเครื่องที่บางและให้น้ำหนักที่ดีมาก
- ซอฟต์แวร์ค่อนข้างเสถียร
- กล้องที่ดีมาก
ข้อเสีย
- ไม่ต่างและโดดเด่นจากสมาร์ทโฟนของคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน
- เหตุผลที่จะซื้อโทรศัพท์มือถือราคาแพงมีน้อยลงมากกว่าเดิม
- ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 ที่มีระบบแวดล้อมที่ยังเล็กและเป็นจุดอ่อนสำคัญที่สุด
ป.ล. ภาพทั้งหมดดูได้ที่นี่ครับ