🌟 Amazon เดินหน้าพัฒนา หุ่นยนต์ส่งพัสดุ ด้วย AI เต็มรูปแบบ
Amazon กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการโลจิสติกส์ ด้วยการพัฒนา หุ่นยนต์มนุษย์ (humanoid robots) สำหรับใช้ในระบบ ส่งพัสดุอัตโนมัติ โดยมีการผสานเทคโนโลยี AI ขั้นสูง เข้ากับหุ่นยนต์ เพื่อให้สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต
🤖 หุ่นยนต์ AI ทำหน้าที่ส่งพัสดุถึงหน้าประตู
Amazon ได้พัฒนาหุ่นยนต์ให้สามารถเดินลงจากรถตู้ไฟฟ้า Rivian และถือพัสดุไปส่งถึงหน้าบ้านลูกค้าโดยตรง ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการนำ AI เข้ามาใช้ใน “ขั้นตอนสุดท้ายของการจัดส่ง” หรือ last-mile delivery
ในสำนักงานที่ซานฟรานซิสโก Amazon ได้สร้างสนามฝึกพิเศษ (“humanoid park”) จำลองสภาพแวดล้อมจริง เช่น บันได ทางลาด รถตู้ และสิ่งกีดขวาง เพื่อฝึกหุ่นยนต์ให้เคลื่อนไหวและส่งของได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
🧠 Amazon ตั้งทีม AI agentic เพื่อหุ่นยนต์อัจฉริยะ
ไม่เพียงแค่ฝึกหุ่นยนต์ให้เคลื่อนไหว ทาง Amazon ยังได้จัดตั้งทีมพัฒนา AI ใหม่ในชื่อว่า “AI agentic” ที่เน้นให้หุ่นยนต์เข้าใจภาษามนุษย์ และสามารถปรับตัวกับงานที่หลากหลาย ไม่ใช่ทำงานซ้ำ ๆ แบบเดิมอีกต่อไป
🏗️ ทดลองใช้หุ่นยนต์หลายรุ่น พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีต่อเนื่อง
Amazon ทดสอบหุ่นยนต์จากหลายแบรนด์ เช่น
- Digit จาก Agility Robotics
- หุ่นยนต์ราคาประมาณ 16,000 ดอลลาร์จาก Unitree Robotics ประเทศจีน
แนวทางนี้จะช่วยให้ Amazon เลือกรูปแบบหุ่นยนต์ที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้งานจริงในการขนส่งพัสดุ
🚚 อนาคตของการจัดส่ง: จากคลังสินค้าถึงบ้าน ด้วย “หุ่นยนต์ส่งของ”
หลังจากที่ Amazon เข้าซื้อบริษัท Zoox ในปี 2020 เพื่อนำระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติมาใช้กับรถยนต์ไร้คนขับ บริษัทก็ได้เดินหน้าพัฒนา ระบบส่งพัสดุอัตโนมัติ อย่างจริงจัง
แนวคิดคือการเชื่อมต่อทุกขั้นตอน — ตั้งแต่คลังสินค้า, รถส่งของ, ไปจนถึงหุ่นยนต์ส่งถึงหน้าบ้าน — ภายใต้ระบบเดียวกัน
📦 ส่งพัสดุด้วยหุ่นยนต์ คืออนาคตของโลจิสติกส์
การใช้ หุ่นยนต์ส่งพัสดุ ถือเป็นเทรนด์ใหญ่ที่อาจเปลี่ยนโฉมวงการอีคอมเมิร์ซไปตลอดกาล ไม่เพียงลดต้นทุนแรงงาน แต่ยังช่วยเพิ่มความแม่นยำ และลดเวลาในการจัดส่งอย่างมีนัยสำคัญ
Amazon กำลังเป็นผู้นำในสนามนี้ ด้วยเทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง หากระบบนี้ประสบความสำเร็จ โลกของการจัดส่งพัสดุอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป