KBANK เตือนลูกค้า K PLUS เร่งยืนยันเบอร์มือถือก่อน 9 มี.ค. นี้

ธนาคารกสิกรไทยออกประกาศแจ้งเตือนลูกค้าผู้ใช้แอปพลิเคชัน K PLUS ให้รีบดำเนินการ ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ที่ใช้บริการก่อน วันที่ 9 มีนาคม 2567 เพื่อให้สามารถใช้งานแอปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ทำไมต้องยืนยันเบอร์มือถือ K PLUS?

การยืนยันหมายเลขโทรศัพท์เป็นมาตรการสำคัญที่ธนาคารกสิกรไทยใช้เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยของธุรกรรมทางการเงินผ่านแอป K PLUS โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่มิจฉาชีพมีเทคนิคหลอกลวงที่ซับซ้อนขึ้น การยืนยันเบอร์มือถือจะช่วยให้ธนาคารสามารถส่งรหัส OTP และแจ้งเตือนธุรกรรมสำคัญต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง

วิธียืนยันเบอร์มือถือบน K PLUS

ลูกค้าสามารถดำเนินการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์มือถือได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ผ่านแอป K PLUS โดยทำตามขั้นตอนดังนี้:

  1. เข้าสู่ระบบ แอป K PLUS
  2. ไปที่ เมนูตั้งค่า
  3. เลือก จัดการบัญชีและอุปกรณ์
  4. เลือก ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์
  5. กรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการยืนยัน
  6. รับรหัส OTP และกรอกเพื่อยืนยัน
  7. เสร็จสิ้น! ระบบจะแสดงข้อความยืนยันว่าเบอร์มือถือได้รับการยืนยันเรียบร้อยแล้ว

หากไม่ยืนยันภายในกำหนดจะเกิดอะไรขึ้น?

ลูกค้าที่ไม่ดำเนินการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ภายใน วันที่ 9 มีนาคม 2567 อาจไม่สามารถใช้บริการบางฟังก์ชันของแอป K PLUS ได้ เช่น การทำธุรกรรมโอนเงิน การสมัครบริการใหม่ หรือการรับรหัส OTP เพื่อยืนยันตัวตน

ธนาคารกสิกรไทยแนะนำให้ลูกค้าดำเนินการทันที

เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ธนาคารกสิกรไทยแนะนำให้ลูกค้าทุกท่านดำเนินการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์มือถือโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อ K-Contact Center โทร. 02-888-8888 หรือสอบถามที่สาขาของธนาคารทั่วประเทศ

สรุป

การยืนยันเบอร์มือถือกับแอป K PLUS เป็นมาตรการที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ และป้องกันการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต ลูกค้ากสิกรไทยควรดำเนินการ ยืนยันเบอร์มือถือภายในวันที่ 9 มีนาคม 2567 เพื่อให้สามารถใช้บริการ K PLUS ได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย

งานอนาคตมาแล้ว! อาชีพที่กำลังมาแรงในยุคดิจิทัล

เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงโลก อาชีพก็ต้องเปลี่ยนตาม

โลกของการทำงานกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัล AI และระบบอัตโนมัติที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ งานบางประเภทอาจหายไป แต่งานใหม่ ๆ ก็กำลังเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก หากคุณกำลังวางแผนอาชีพหรือมองหาโอกาสใหม่ ๆ นี่คืออาชีพที่กำลังมาแรงและมีอนาคตสดใสในยุคดิจิทัล


1. นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst / Data Scientist)

📊 ทำไมถึงมาแรง?

  • ปัจจุบัน ข้อมูล (Data) เป็นทรัพยากรสำคัญที่สุดของธุรกิจ
  • ทุกบริษัทต้องใช้ข้อมูลในการตัดสินใจทางธุรกิจ

🔹 ทักษะที่ต้องมี:

  • การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล เช่น Python, R, SQL
  • ความเข้าใจในสถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล
  • การสร้าง Data Visualization ให้เข้าใจง่าย

🛠 โอกาสในอนาคต:
ธุรกิจทุกภาคส่วนต้องการนักวิเคราะห์ข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร อีคอมเมิร์ซ หรือสายสุขภาพ


2. วิศวกรปัญญาประดิษฐ์ (AI Engineer / Machine Learning Engineer)

🤖 ทำไมถึงมาแรง?

  • AI กำลังเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีในทุกอุตสาหกรรม
  • Chatbots, รถยนต์ไร้คนขับ, และระบบแนะนำสินค้า ล้วนขับเคลื่อนด้วย AI

🔹 ทักษะที่ต้องมี:

  • การเขียนโปรแกรม (Python, TensorFlow, PyTorch)
  • คณิตศาสตร์และสถิติขั้นสูง
  • ความเข้าใจด้าน Machine Learning และ Deep Learning

🛠 โอกาสในอนาคต:
ทุกบริษัทที่ต้องการพัฒนา AI ของตัวเองกำลังมองหาคนที่มีทักษะนี้


3. ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity Specialist)

🔐 ทำไมถึงมาแรง?

  • โลกดิจิทัลเต็มไปด้วยภัยคุกคามจากแฮ็กเกอร์และมัลแวร์
  • องค์กรต้องการความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่ง

🔹 ทักษะที่ต้องมี:

  • การตรวจจับและป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์
  • การใช้เครื่องมือด้านความปลอดภัย เช่น Firewalls, Encryption
  • การเข้าใจโครงสร้างเครือข่ายและความเสี่ยงด้านไซเบอร์

🛠 โอกาสในอนาคต:
ภาครัฐและภาคเอกชนต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ


4. นักพัฒนา Web3 และ Blockchain (Blockchain Developer)

🛠 ทำไมถึงมาแรง?

  • เทคโนโลยี Blockchain กำลังเป็นพื้นฐานของการเงินและธุรกิจยุคใหม่
  • NFTs, Smart Contracts, และ DeFi (Decentralized Finance) กำลังเติบโต

🔹 ทักษะที่ต้องมี:

  • การพัฒนา Smart Contracts ด้วย Solidity
  • การทำงานกับ Blockchain เช่น Ethereum, Binance Smart Chain
  • การออกแบบโครงสร้างของแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApps)

🛠 โอกาสในอนาคต:
แม้ว่า Crypto จะมีความผันผวน แต่เทคโนโลยี Blockchain ยังคงได้รับการพัฒนาและใช้งานในหลายอุตสาหกรรม


5. ผู้เชี่ยวชาญด้าน UX/UI (UX/UI Designer)

🎨 ทำไมถึงมาแรง?

  • ผู้ใช้ต้องการประสบการณ์ที่ดีขึ้นในการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
  • ธุรกิจที่มี UX/UI ดี มักจะประสบความสำเร็จมากกว่า

🔹 ทักษะที่ต้องมี:

  • การออกแบบด้วย Figma, Adobe XD
  • การเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้และการวิจัย UX
  • การออกแบบอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย

🛠 โอกาสในอนาคต:
ทุกบริษัทที่ทำแอปหรือเว็บไซต์ต้องการ UX/UI Designer เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์


6. นักสร้างคอนเทนต์วิดีโอ (Video Content Creator / Streamer)

📹 ทำไมถึงมาแรง?

  • การตลาดออนไลน์ต้องการวิดีโอมากขึ้น
  • แพลตฟอร์มอย่าง YouTube, TikTok, Facebook Reels กำลังเติบโต

🔹 ทักษะที่ต้องมี:

  • การตัดต่อวิดีโอด้วย Premiere Pro, CapCut, DaVinci Resolve
  • ทักษะการเล่าเรื่องให้น่าสนใจ
  • การใช้ AI และเทคโนโลยีใหม่ในการสร้างคอนเทนต์

🛠 โอกาสในอนาคต:
นักสร้างคอนเทนต์สามารถสร้างรายได้จากโฆษณา การตลาด และการเป็นอินฟลูเอนเซอร์


เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานอนาคต!

พัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
เรียนรู้และฝึกฝนทักษะใหม่ผ่านคอร์สออนไลน์
สร้างโปรเจกต์หรือพอร์ตโฟลิโอของตัวเอง
ติดตามแนวโน้มและโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดแรงงาน

โลกของงานกำลังเปลี่ยนไป ถ้าคุณพร้อมพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ คุณจะสามารถเติบโตไปพร้อมกับยุคดิจิทัลและประสบความสำเร็จในอาชีพที่คุณเลือก

ก้าวใหม่ของ “สุรพงศ์ เปล่งขำ” สู่ตำแหน่งเลขาธิการ สคส.

การเปลี่ยนแปลงสำคัญในวงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ รับตำแหน่งเลขาธิการ สคส.

สัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นอีกช่วงเวลาสำคัญของวงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เข้ารับตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) อย่างเป็นทางการ โดยเริ่มต้นด้วยการนำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สักการะศาลพระพรหม ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เพื่อความเป็นสิริมงคล

ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี พ.ต.อ.สุรพงศ์ ได้เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พร้อมแถลงแนวทางการขับเคลื่อน สคส.ศูนย์บริการรับเรื่องร้องเรียนและให้คำปรึกษาการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA Center) ซึ่งตั้งอยู่ภายในอาคารศูนย์บริการ NT2 โดยงานนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเร่งผลักดันให้กฎหมาย PDPA มีการบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

บรรยากาศในวันดังกล่าวเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีทั้งภาครัฐและเอกชนจับตามองถึงแนวทางการทำงานของเลขาธิการ สคส. คนใหม่ ซึ่งต้องเผชิญกับความท้าทายท่ามกลางยุคดิจิทัลที่ข้อมูลมีความเปราะบางและเสี่ยงต่อการรั่วไหล วงในเผยว่า พ.ต.อ.สุรพงศ์ พร้อมลุยเต็มกำลังในการขับเคลื่อนนโยบาย PDPA ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ อีกทั้งยังมีแผนขยายศูนย์ PDPA Center สู่ระดับภูมิภาคให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วยเป้าหมาย “ลดการรั่วไหลของข้อมูลให้เป็นศูนย์”

การก้าวขึ้นมารับตำแหน่งครั้งนี้ของ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ จะส่งแรงสั่นสะเทือนแค่ไหนต่อวงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด!
##ข้อมูลรั่วไหลเป็น “0”

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Exit mobile version